คอนโดมิเนียม คือเทรนด์ที่พักอาศัยยอดนิยมในสังคมเมือง เนื่องจากมูลค่าที่ดินในย่านธุรกิจที่สูงลิบ คอนโดฯ จึงเป็นคำตอบของการอยู่อาศัยใกล้ที่ทำงาน ที่เรียน ใกล้แหล่งอำนวยความสะดวกอันน่าสนใจ ประหยัดเวลาเดินทาง โดยเฉพาะในวัยเรียน ที่คงจะอดขอญาติผู้ใหญ่ไม่ได้ ดังนั้นหากคุณได้รับคำขอจากลูกหลาน…และมีใจเอ็นดูอยากจะช่วยพวกเขาด้วยอยู่แล้วเป็นทุนเดิม มาดูวิธีเลือก ให้คำแนะนำในการซื้อคอนโดฯ กันดีกว่า
1. คำนึงถึงความต้องการของผู้อยู่อาศัย
มีคำกล่าวว่า ‘ปลูกเรือนตามใจผู้อยู่’ สำหรับคอนโดฯ เองก็ใช้หลักการนี้เช่นเดียวกัน ก่อนจะตัดสินใจ ควรสอบถามคนที่จะอยู่อาศัยก่อนว่าดูโครงการไหนไว้ อาจขอตัวเลือกซัก 1 – 3 แล้วค่อยมาพิจารณาหาจุดกึ่งกลางระหว่างกัน ว่าแบบไหนตรงใจทั้งผู้ให้และผู้รับ
2. คำนึงถึงจุดเด่นและจุดด้อย
ทำเล, การเข้าถึงของบริการสาธารณะ, บริษัทเจ้าของโครงการ, วัสดุก่อสร้าง, ข้อเสนอการทำสัญญา, การตกแต่ง รวมไปถึงรายละเอียดปลีกย่อยอื่น ๆ เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามโดยเด็ดขาด หัวใจหลักของการซื้อคอนโดคือความสะดวกสบาย ดังนั้นทำเลและการเดินทางเป็นส่วนที่ต้องนึกถึงอันดับแรก มาก่อนความสวยงามเสมอ ถ้าซื้อให้วัยเรียน ก็ควรคิดว่าการเดินทางจากคอนโดไปยังสถานที่เรียนนั้นมีบริการรถอะไรบ้าง ย่นระยะหรือไม่ การเดินทางใช้งบเท่าไหร่ต่อวัน อยู่ในซอยลึกหรือไม่ หากผู้อยู่อาศัยมีรถยนต์ส่วนตัว อาจตัดเรื่องคอนโดฯ ติดรถไฟฟ้าออกไป แต่ต้องพิจารณาจากระยะเวลาในการเดินทางแทนว่าใช้เวลากี่นาที คอนโดฯ มีที่จอดรถเพียงพอหรือไม่ เป็นต้น
3. บริการหลังการขาย
บ่อยครั้งที่เราเลือกซื้อสินค้า มักจะมองเพียงก่อนซื้อเท่านั้น จนละเลยการมองในแง่อื่น ๆ ไป ซึ่งทำให้เมื่อตัดสินใจอยู่ไปแล้ว ก็เกิดปัญหา จนสร้างความหนักอกหนักใจเข้าไปอีก ดังนั้นก่อนเลือกซื้อ ให้ดูเสียงตอบรับหรือรีวิวจากลูกค้าท่านอื่น ๆ ของบริษัทเจ้าของโครงการ หากเป็นโครงการใหม่ ก็ลองดูเสียงตอบรับเทียบกับโครงการอื่น ๆ ในบริษัทเดียวกันก็ได้ โดยเฉพาะในส่วนการบริหารงานของนิติบุคคลคอนโดฯ ควรหาข้อมูลว่ามีการทำงานเป็นอย่างไร, มีระบบรักษาความปลอดภัยแบบไหน, ค่าส่วนกลางเดือนละเท่าไหร่, มีสิทธิประโยชน์อะไรบ้าง รวมไปจนถึงบริการซ่อมแซมสิ่งต่าง ๆ ในคอนโดฯ ว่ามีช่างให้ หรือต้องเสาะหาเองจากข้างนอก เป็นต้น
4. มองเผื่ออนาคต
ไม่ใช่ทุกคนที่จะอยู่คอนโดฯ ไปตลอดชีวิต ดังนั้นการเลือกซื้อคอนโดฯ ซึ่งเป็นทรัพย์สินราคาสูงแบบนี้ ต้องมองให้ยาว ๆ อย่างแรกอาจมองไปที่คอนโดฯ นี้จะอยู่คนเดียวตลอดไปหรือเปล่า หากมีญาติ แวะมาเยี่ยมบ้าง ก็เลือกแบบหลายห้องนอนเพิ่มขึ้นมา หรือตั้งใจจะซื้อคอนโดฯ ใกล้ย่านมหาวิทยาลัยอยู่แล้ว…แบบนี้ถ้าไม่อยู่ในอนาคต ก็ปล่อยเช่าได้ง่าย และหากในย่านที่ตั้งใจจะซื้อคอนโดฯ นั้น มีตัวเลือกหลายโครงการ ควรเลือกโครงการที่เป็นที่นิยมในตลาดอสังหาริมทรัพย์ เพราะสามารถขายต่อได้ในราคาที่ดีขึ้น
วางแผนการเงินสำหรับการซื้อคอนโด
1. สำรวจเงินเดือน
ฐานเงินเดือนสำคัญเมื่อต้องกู้ เพราะจะกำหนดว่าสามารถยื่นกู้ซื้อคอนโดได้เท่าไหร่ ทางธนาคารจะดูที่รายได้สุทธิในแต่ละเดือน ซึ่งโดยทั่วไปแล้วหนี้ไม่ควรเกิน 1 ใน 3 ของเงินเดือน
2. สำรวจอายุงาน
ถ้าอายุงานเหลือน้อยมาก ๆ หรือคุณอยู่ในวัยเกษียณแล้ว โอกาสที่ธนาคารจะอนุมัติค่อนข้างต่ำ เว้นแต่จะเป็นข้าราชการ หรือมีผู้กู้ร่วมอีกคน ดังนั้นควรปรึกษาเจ้าหน้าที่ในจุดนี้ก่อน เพื่อที่จะได้เตรียมตัวได้อย่างถูกต้อง
3. สร้างเครดิต
เครดิตที่ดีทำให้ให้กู้ผ่านได้ง่าย วิธีการที่ง่ายที่สุดอย่างหนึ่งคือ การมีบัตรเครดิต 1 ใบ แล้วใช้จ่ายเป็นประจำอย่างต่อเนื่องทุกเดือนเป็นเวลา 6 เดือน และต้องจ่ายเงินคืนเต็มวงเงินทุกเดือนไม่มีขั้นต่ำ เพื่อเป็นการสร้างข้อมูลในเครดิตบูโรที่มีความน่าเชื่อถือ
4. เก็บเงินสำรอง
แม้การซื้อคอนโดฯ จะสามารถผ่อนชำระผ่านธนาคารได้ แต่คุณก็ควรมีเงินก้อนในส่วนของ ค่าทำสัญญา, เงินดาวน์ และเงินค่าตกแต่งห้องจิปาถะ ดังนั้นควรตั้งงบประมาณในแต่ละส่วนว่ามีเท่าไหร่ จะทำให้สามารถบริหารเงินได้อย่างเป็นระบบมากขึ้น
5. เรียนรู้เรื่องการหมุนเงิน
ผู้สูงอายุบางท่านเคยชินกับการใช้เงินแบบตรง ๆ มาตลอด และมีความเชื่อฝังหัวว่าทุกสิ่งต้องซื้อเงินสดเท่านั้น แต่หากมองในแง่ธุรกิจ คุณจะประหลาดใจว่าคนมั่งมีมากมายเลือกที่จะผ่อนชำระมากกว่า ด้วยระบบการรีไฟแนนซ์เพื่อลดดอกเบี้ย เพื่อรับส่วนต่าง และสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ จากธนาคารหรือสถาบัญทางการเงินอีกที นอกจากนั้นการซื้อคอนโดฯ ที่มีดีลร่วมกับรัฐบาล ยังสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย
นี่ป็นหลักการเบื้องต้นที่ควรรู้สำหรับคนที่กำลังมองหาคอนโดฯ เพียงทำความเข้าใจในจุดนี้ ก็จะสามารถจัดการเรื่องเงินได้อย่างเกิดประโยชน์สูงสุด ได้คอนโดฯ ที่ถูกใจทั้งผู้ให้และผู้รับ อีกทั้งยังสามารถนำแนวคิดนี้ไปบอกต่อผู้อื่นเพื่อเป็นความรู้ได้อีกด้วย
เรียบเรียงโดย : กองบรรณาธิการ
ภาพประกอบจาก : www.pixabay.com