ประโยชน์ของการหันมาเป็นมังสวิรัติเต็มตัว

คนเราเริ่มรับประทานมังสวิรัติด้วยเหตุผลแตกต่างกัน บางคนอาจเริ่มมาจากความเชื่อทางศาสนา บางคนอาจมีความกังวลในเรื่องของสวัสดิภาพในชีวิตของสัตว์ร่วมโลก ไปจนถึงความกังวลเรื่องความปลอดภัยของการใช้สารปฏิชีวนะและฮอร์โมนในการปศุสัตว์ ซึ่งหลากหลายเหตุผลนี้มักสอดคล้องกับหัวใจหลักของมังสวิรัติ…คือการไม่รับประทานเนื้อสัตว์ ส่วนผลิตภัณฑ์จากสัตว์ อาทิ นม น้ำผึ้ง ไข่ ก็ยังคงมีอยู่บ้างตามความเคร่งครัดของแต่ละคนไป อย่างไรก็ดี การรับประทานมังสวิรัติในปัจจุบันกลายเป็นทางเลือกการรักษาสุขภาพที่น่าสนใจ ทำให้เราเห็นผลิตภัณฑ์จากพืชหลากหลายรูปแบบในท้องตลาด อีกทั้งยังเริ่มมีงานวิจัยรองรับในด้านสุขภาพโดยตรง

ความหลากหลายของการกินมังสวิรัติ

ถ้าพูดถึงการละเว้นเนื้อสัตว์ กลุ่มของผู้จัดแผนการรับประทานแบบนี้ก็จะมีแยกย่อยลงไปอีกหลากหลายกลุ่ม ซึ่งแต่ละกลุ่มมีความแตกต่างกันไป เช่น

• ชีวจิต : เป็นการรับประทานอาหารเพื่อสมดุลของร่างกาย บำรุงจิตใจ เน้นพืชผัก ละเว้นจากการรับประทานสัตว์ใหญ่ แต่ยังรับประทานเนื้อปลาได้
• เจ : เป็นการงดเว้นการบริโภคชีวิตตามหลักศาสนา งดเนื้อสัตว์ทุกประเภท (ยกเว้น หอยนางรม) งดเครื่องเทศปรุงแต่งรส และผักที่มีกลิ่นฉุนต่าง ๆ เพื่อลดปัญหาทางกายภาพที่อาจเกิดขึ้นในช่วงที่ต้องปฏิบัติธรรมควบคู่กัน
• มังสวิรัติ : งดเนื้อสัตว์ทุกประเภทเนื่องจากการรับประทานเนื้อต้องมีการฆ่าสัตว์ แต่สำหรับผลิตภัณฑ์จากสัตว์ เช่น นม ไข่ สามารถรับประทานได้
• มังสวิรัติ (เคร่ง) : งดทั้งเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์ที่มาจากสัตว์ รับประทานเฉพาะพืชเท่านั้น
• วีแกน : นอกจากการงดรับประทานเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์จากสัตว์แล้ว ชาววีแกนยังมุ่งเน้นวิถีชีวิตที่ปราศจากการเบียดเบียนด้วย ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นเครื่องอุปโภคบริโภค เช่น กระเป๋าหนัง เครื่องสำอางที่มีการทดลองในสัตว์ สบู่ที่ใช้ไขมันสัตว์ เสื้อขนสัตว์ ผ้าไหม ฯลฯ จะถูกงดเว้นทั้งหมด

ประโยชน์ของการกินมังสวิรัติ

1. ช่วยปรับอารมณ์
   มีสารสำคัญที่ชื่อว่า Arachidonic acid ที่มีมากในแหล่งอาหารที่เป็นเนื้อสัตว์ นักวิจัยได้ชี้ให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างสารตัวนี้และอารมณ์ของคนเรา ทำให้พบว่าในกลุ่มคนที่รับประทานมังสวิรัติจะพบสารนี้น้อยกว่าและมีปัญหาเรื่องอารมณ์ในระดับต่ำกว่าผ่านการทดสอบเรื่อความวิตกกังวลและภาวะซึมเศร้า อีกประการสำหรับคนที่เลือกรับประทานมังสิรัติด้วยอุดมการไม่เบียดเบียนพบว่าพวกเขาเหล่านี้มีทัศนคติในการใช้ชีวิตที่ดี ตระหนักถึงความสุขและคุณค่าในตัวเองได้อย่างชัดเจน
2. ช่วยลดความเสี่ยงโรค
   ไม่ว่าจะเป็นโปรตีนหรือไขมัน แหล่งที่มาจากพืชนั้นจะช่วยให้ร่างกายย่อยและดูดซึมได้ง่ายกว่าจากสัตว์ ซึ่งในระยะยาวจะทำให้ร่างกายมีความสมดุล สามารถรักษาระบบการทำงานต่าง ๆ ให้เป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ผู้ที่รับประทานมังสวิรัติมีความเสี่ยงเกี่ยวกับเรื่องระดับคลอเรสเตอรอล น้ำตาลในเลือด หรือระดับฮอร์โมนที่แปรปรวนน้อยกว่าคนที่รับประทานเนื้อสัตว์
3. มีรูปร่างที่สมส่วน
   ข้อดีข้อนี้ถือเป็นโบนัสพิเศษสำหรับคนที่รับประทานมังสวิรัติ เนื่องในพืชส่วนใหญ่มักมีไขมันดี คลอเรสเตอรอลต่ำ แคลอรี่น้อย ทำให้ผู้ที่รับประทานมังสวิรัติมักจะมีภาวะน้ำหนักเกินน้อย มีรูปร่างสมส่วน เพราะเหตุนี้เองโปรแกรมการออกกำลังกายบางแห่งมักจะแทรกเมนูมังสวิรัติลงไปในการไดเอทด้วย รวมไปจนถึงคุณประโยชน์จากการรับประทานพืชผักที่มีไฟเบอร์สูง ก็ช่วยทำให้ระบบการเผาผลาญและขับถ่ายของร่างกายเป็นไปได้อย่างดี
4. ลดความเสี่ยงต่อสารพิษ
   ถ้าพูดถึงเรื่องคุณภาพวัตถุดิบทางฝั่งพืชจะมีการแบ่งแยกหมวดหมู่สำหรับผู้บริโภคอย่างเห็นได้ชัดมากกว่าเนื้อสัตว์ เช่น พวกผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกส์, ผักปลอดสารพิษต่าง ๆ ในขณะที่หมวดของเนื้อสัตว์มักจะชูโรงที่แบรนด์สินค้าขึ้นต้น จากนั้นกรรมวิธีการผลิตเป็นรอง ซึ่งจุดนี้ส่งผลต่อการแยกแยะของผู้บริโภค อีกประการหนึ่งคือเรื่องของสารพิษตกค้างในพืชนั้นจะกำจัดได้ง่ายกว่าด้วยการชะล้างและสังเกตแหล่งที่มา รวมไปจนถึงความเสี่ยงเรื่องปรสิตในพืชก็พบน้อยกว่าเช่นกัน

หากคุณกำลังสนใจที่จะดูแลร่างกายอย่างจริงจังด้วยการปรับพฤติกรรมการบริโภคเข้ามาสู่เส้นทางของมังสวิรัติแบบเต็มตัวก็ไม่ต้องกังวลอีกต่อไป เนื่องจากปัจจุบันนี้ได้มีผลิตภัณฑ์พืชหลากหลายที่พร้อมตอบสนองครบถ้วนในหมวดของสารอาหารซึ่งตรงตามความต้องการของร่างกาย เหมาะแก่ทุกเพศทุกวัย สามารถเริ่มเป็นมังสวิรัติได้ตั้งแต่วัยเด็กเล็ก หรือแม้แต่ผู้ที่เป็นนักกีฬาเลยก็ว่าได้ ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนส่งผลให้สุขภาพดีขึ้นอย่างยั่งยืน

เรียบเรียงโดย : กองบรรณาธิการ
แหล่งที่มา : www.health.harvard.edu, www.standard.co.uk, www.globalhealingcenter.com
ภาพประกอบจาก : www.freepik.com