Health4senior

ไอเรื้อรัง ใช้สมุนไพรอะไรรักษาได้บ้าง

การไอ ช่วยขับสิ่งแปลกปลอมที่มากระตุ้นทางเดินหายใจ เช่น ควัน ฝุ่นละออง เสมหะ ออกจากทางเดินหายใจ ซึ่งจะทำให้เกิดอาการไอชั่วระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น การไอติดต่อกันเป็นเวลานานจนเรื้อรัง เกิดจากหลายสาเหตุ เช่น หวัดจากการแพ้ หลอดลมอักเสบ ไอกรน วัณโรค

การรักษาจึงต้องรักษาสาเหตุของการไออื่น ๆ เพื่อคู่ไปด้วย ยาแก้ไอที่ต้องเลือกให้เหมาะสมกับลักษณะอาการไอ เช่น หากไอแห้ง ๆ ต้องใช้ยากดอาการไอ ซึ่งสมุนไพรในกลุ่มนี้ที่สำคัญ คือ ฝิ่น แต่ถ้าไอมีเสมหะ ควรใช้ยาแก้ไอละลายเสมหะ ซึ่งสมุนไพรในกลุ่มนี้แบ่งได้เป็น 3 กลุ่มย่อยตามสารสำคัญ คือ
  1. กลุ่มที่มีสาระสำคัญเป็นน้ำมันหอมระเหย ได้แก่ เหง้าขิง หัวกระเทียม และผลดีปลี
  2. กลุ่มที่มีสาระสำคัญเป็นกรด ซึ่งมีรสเปรี้ยว ได้แก่ มะขามเปียก น้ำมะนาว ผลมะขามป้อม และเนื้อสับปะรด 
  3. กลุ่มสมุนไพรอื่น ๆ ได้แก่ มะแว้งเครือ มะแว้งต้น และเพกา เป็นต้น

นอกจากนี้ ผู้ป่วยควรพักผ่อนมาก ๆ งดบุหรี่ อาหารทอด น้ำเย็น และพยายามดื่มน้ำอุ่นบ่อย ๆ หากอาการไม่ดีขึ้นใน 1 – 2 สัปดาห์ ร่วมกับน้ำหนักลด หรือมีอาการรุนแรงขึ้นควรปรึกษาแพทย์

 

ตำรับยาแก้ไอสมุนไพรต่าง ๆ ตามตำราพื้นบ้าน

  • กระเทียม ใช้กระเทียมและขิงสดอย่างละเท่ากัน ตำละเอียดละลายกับน้ำอ้อยสด คั้นน้ำจิบแก้ไอขับเสมหะ หรือคั้นกระเทียมกับน้ำมะนาวเติมเกลือใช้จิบ หรือกวาดคอก็ได้
  • ขิง วิธีใช้ขิงเป็นยาแก้ไอมีอยู่หลายวิธี อาจใช้ต้มกับน้ำพอเดือด ชงด้วยน้ำเดือด หรือคั้นน้ำขิงโดยใช้กระสายยา คือ น้ำมะนาวก็ได้ ขนาดที่ใช้ตั้งแต่ 5 – 30 กรัม
  • ดีปลี ใช้ดีปลีประมาณครึ่งผล ตำละเอียดเติมน้ำมะนาวและเกลือเล็กน้อย กวาดคอ หรือจิบบ่อย ๆ
  • มะนาว ใช้น้ำมะนาว 1 ถ้วยชา ผสมน้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ และเกลือเล็กน้อย ชงน้ำอุ่นดื่มบ่อย ๆ หรือน้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะผสมน้ำผึ้ง 4 ช้อนโต๊ะ จิบแก้ไอ
  • มะขาม ใช้มะขามเปียก 3 กรัม จิ้มเกลือรับประทาน หรือนำมะขามเปียกมาต้มกับน้ำ เติมน้ำตาลและเกลือเล็กน้อย
  • มะขามป้อม ใช้ผลสดตำคั้นน้ำดื่ม หรือกัดเนื้อเคี้ยวอมบ่อย ๆ
  • มะแว้งเครือ/มะแว้งต้น ใช้ผลมะแว้งสด 5 – 6 ผล ล้างให้สะอาดเคี้ยวอมไว้ กลืนเฉพาะน้ำจนหมดรสขมแล้วคายกาก หรือจะกลืนทั้งน้ำและเนื้อก็ได้ หรือใช้ผลสด 5 – 10 ผล โขลกพอแตกคั้นเอาแต่น้ำใส่เกลือเล็กน้อยจิบบ่อย ๆ เวลาไอ
  • เพกา ใช้เมล็ดครั้งละครึ่งถึง 1 กำมือ (หนัก 1 1/2 – 3 กรัม) ใส่น้ำประมาณ 300 cc. ต้มไฟอ่อนพอเดือดประมาณ 1 ชั่วโมงรับประทานวันละ 3 ครั้ง

 

ภาพประกอบจาก : www.freepik.com

บทความที่เกี่ยวข้อง

แสดงความคิดเห็น

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณ เพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ

บันทึก