มะนาว (Lemon) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Citrus aurantifolia Swing. มีสารสำคัญ ได้แก่ ผิวของผลมีน้ำมันหอมระเหย (Volatile oil) ประกอบด้วย Citral, Imonnene, linadol, linalylacetate cymene, terpineol
มะนาวมี Citric acid และวิตามินซี ในใบม้ำมันหอมระเหยจำพวก coumarin, isopimpinellin และยังประกอบด้วยสารอาหารต่าง ๆ เช่น คาร์โบไฮเดรต วิตามินซี วิตามินบี 1, 2 และ 4
มะนาว สามารถใช้รักษาอาการเบื้องต้นของโรคต่าง ๆ ได้ เช่น
- โรคลักปิดลักเปิด น้ำมะนาวมีวิตามินซีสูงมาก จึงมีฤทธิ์รักษาโรคลักปิดลักเปิด โดยการดื่มน้ำมะนาวเป็นประจำ
- อาการไอ เจ็บคอ เสียงแหบแห้ง ใช้น้ำมะนาวผสมเกลือเล็กน้อย กรดที่มีในน้ำมะนาวจะช่วยกระตุ้นให้มีการขับน้ำลาย ออกมา ทำให้เกิดการชุ่มคอ และลดการระคายคอ
- แก้ปวดท้อง ท้องอืดท้องเฟ้อ โดยใช้เปลือกมะนาว คลึงให้น้ำมันออกแล้วชงน้ำดื่ม น้ำมันหอมระเหยจากเปลือกจะช่วยแก้อาการปวดท้อง และท้องอืดท้องเฟ้อได้
- บรรเทาการปวดศีรษะ โดยการนำปูนแดงทาบนมะนาวที่ฝานผ่าครึ่ง แล้วปิดบริเวณขมับ จะบรรเทาอาการปวดศีรษะได้
- แก้ก้างปลาติดคอ โดยบีบน้ำมะนาวลงคอ กรดในน้ำมะนาวจะทำให้ก้างปลาอ่อนลง และหลุดได้
- แก้หัวโน นำน้ำมะนาวผสมดินสอพองพอกบริเวณที่โน จะทำให้เย็นและยุบตัวเร็ว
ประโยชน์อื่น ๆ ของมะนาว
มะนาวนอกจากจะช่วยรักษาอาการเบื้องต้นของโรคต่าง ๆ ดังที่กล่าวมาแล้ว ยังมีประโยชน์อีก เช่น น้ำมะนาวสามารถนำมาปรุงแต่งอาหารให้มีรสเปรี้ยว และดับกลิ่นคาว เช่น ใส่ในน้ำพริกกะปิ ต้มยำ อาหารประเภทยำ ลาบ ส้มตำ ฯลฯ นอกจากนี้ ยังใช้ทำน้ำมะนาวคั้น บ๊วยรสมะนาว มะนาวแช่อิ่ม มะนาวดอง รับประทานเป็นขนม หรือของว่างได้ ส่วนประโยชน์ในด้านความงามนั้น นำน้ำมะนาวผสมกับดินสอพอง ขมิ้นชันผง พอกหน้าลดการ อักเสบของสิวได้ดี หรือเปลือกมะนาวที่เหลือนำมาถูตามข้อศอก หัวเข่า ซอกเล็บ และส้นเท้า จะช่วยลดการด้านและส้นเท้าแตกได้
การจะใช้น้ำมะนาวให้เกิดประโยชน์สูงสุดนั้น มีข้อแนะนำว่า วิตามินซีในน้ำมะนาวจะสลายตัวง่ายในความร้อน จึงควรที่จะปรุงน้ำมะนาวเป็นขั้นตอนสุดท้ายในการประกอบอาหาร
ภาพประกอบจาก: www.freepik.com