วันที่คุณพร้อมจะเลิกสูบบุหรี่ ความมุ่งมั่นถือว่าเป็นก้าวที่สำคัญ จริงอยู่มันอาจไม่ใช่เรื่องง่ายซะทีดียว แต่กระนั้น การเลือกวิธีเลิกสูบบุหรี่ที่เหมาะสมก็เป็นจุดเริ่มต้น ในการเสริมความมั่นใจที่จะทำให้สำเร็จ
ต้องมีแผนการเลิกสูบบุหรี่
- หักดิบด้วยตัวเอง ประมาณ 90% ของผู้ที่พยายามเลิกสูบบุหรี่ เริ่มด้วยการหักดิบ โดยไม่พึ่งอะไรเลย ไม่ว่าจะเป็นการขอความช่วยเหลือ การเข้ารับการรักษาการติดบุหรี่ การใช้ยา พบว่ามีผู้ที่สามารถเลิกสูบบุหรี่ได้โดยการหักดิบสำเร็จ เพียง 4-7% เท่านั้น
- พฤติกรรมบำบัด วิธีนี้เป็นการเข้าไปขอคำปรึกษากับผู้ให้การบำบัด เพื่อหาวิธีที่เหมาะสมในการที่จะทำให้คุณไม่อยากสูบบุหรี่ เมื่อคุณรู้ถึงสิ่งกระตุ้นของคุณ เช่น อารมณ์หรือสถานการณ์ที่ทำให้คุณอยากสูบบุหรี่ จะได้วางแผนที่จะทำให้คุณผ่านช่วงเวลานั้น โดยไม่ต้องพึ่งบุหรี่ แนะนำเพิ่มเติม
- การบำบัดโดยนิโคตินทดแทน หมากฝรั่ง แผ่นทดแทน ยาสูดพ่น สเปรย์และยาอม เป็นวิธีการบำบัดแบบนิโคตินทดแทน โดยจะให้นิโคตินแก่คุณโดยคุณไม่ต้องสูบบุหรี่ และอย่าลืมว่าจุดมุ่งหมายคือการเลิกเสพติดสารนิโคติน ไม่ใช่เพียงแค่เลิกสูบบุหรี่ ในทางปฏิบัติจึงอาจใช้วิธีนี้ควบคู่ไปกับการทำพฤติกรรมบำบัด
- การใช้ยาช่วยลดอาการถอนยา Bupropion , Varenicline เป็นต้น เป็นยาตามใบสั่งแพทย์ที่สามารถช่วยลดความอยากสูบบุหรี่ รวมถึงลดอาการถอนยาได้
- การรักษาแบบผสม การใช้วิธีการรักษาแบบผสมสามารถเพิ่มโอกาสในการเลิกสูบบุหรี่ ตัวอย่าง เช่น การใช้แผ่นนิโคตินทดแทนร่วมกับหมากฝรั่งอาจดีกว่าใช้แผ่นนิโคตินเพียงอย่างเดียว หรือ การรักษาแบบพฤติกรรมบำบัดร่วมกับการบำบัดนิโคตินทดแทน การใช้ยาตามใบสั่งแพทย์ร่วมกับแผ่นนิโคตินทดแทน เป็นต้น อย่างไรก็ตาม คุณควรปรึกษากับแพทย์ก่อน เพื่อให้รู้ว่าวิธีการที่เหมาะสำหรับคุณ ควรเป็นวิธีใด ปัจจุบันมีศูนย์ให้ความรู้เรื่องการเลิกบุหรี่อยู่หลายที่ เบื้องต้นมีศูนย์แนะนำทางโทรศัพท์ ติดต่อ www.thailandquitline.or.th
ไม่ว่าคุณจะเลือกวิธีใด ส่วนสำคัญของการเลิกสูบบุหรี่คือ การสร้างแผนการเลิกบุหรี่ที่เหมาะกับคุณ เลือกวันที่จะตัดสินใจเลิก เพื่อจะช่วยให้คุณมีเวลาเตรียมตัวโดยไม่สูญเสียแรงจูงใจ บอกเพื่อนและครอบครัวว่าคุณกำลังเลิกสูบบุหรี่ ทิ้งบุหรี่และที่เขี่ยบุหรี่ทั้งหมดออกจากบ้าน ที่ทำงานและรถของคุณ มองวิเคราะห์ถึงสิ่งกระตุ้นที่ให้คุณอยากสูบบุหรี่และตัดสินใจว่าคุณจะจัดการกับพวกมันอย่างไร
ทำอย่างไร ให้อยู่ในแผนการเลิกบุหรี่ได้จนสำเร็จ
- รู้ถึงสิ่งกระตุ้นให้คุณอยากสูบบุหรี่และหลีกเลี่ยง หลังจากเขียนถึงสิ่งกระตุ้นและวิธีการที่คุณจะจัดการในแต่ละสถานการณ์แล้ว เรื่องพื้นฐานคือ หลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นดังกล่าว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วง 3 เดือนแรก ซึ่งเป็นช่วงสำคัญที่หลายๆคนล้มเลิกความตั้งใจและเลิกบุหรี่ไม่สำเร็จ
- รู้ว่า 2 – 3 วันแรก เป็นวันที่ลำบากที่สุด คุณอาจจะรู้สึกหงุดหงิด หดหู่ ทำอะไรช้า ๆ และเหนื่อยโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณเลือกใช้วิธีหักดิบ ในทางปฏิบัติการมีเพื่อนดี ๆ คอยให้กำลังใจ หรือมีศูนย์เลิกสูบบุหรี่ที่คุณสามารถปรึกษาได้ เป็นสิ่งที่ดี จากการศึกษาพบว่าหลาย ๆ คนเมื่อผ่านวันนี้ไปได้จะรู้สึกดีขึ้น แม้ว่าจะยังมีความอยากสูบบุหรี่อยู่ก็ตาม
- อย่ายอมจำนนกับความอยากของคุณ ทุกครั้งที่คุณอยากสูบบุหรี่ และคุณไม่สูบได้ โอกาสของคุณที่จะเลิกสูบบุหรี่ก็มีมากขึ้น ฝึกเปลี่ยนนิสัยของคุณ ให้ปากคาบอย่างอื่นแทน เช่น คาบแครอทที่ตัดเป็นแท่งเล็ก ๆหรือกินเมล็ดดอกทานตะวัน
- หางานอดิเรกใหม่ ๆ ทำร่วมกับเพื่อนที่ไม่สูบบุหรี่ ทำบางสิ่งบางอย่างที่ช่วยให้มือของคุณไม่ว่างและลดความเครียดที่อาจเกิดขึ้น เช่น การพาสุนัขเดินเล่น การเล่นกีฬา ไม่ว่าจะเป็นจักรยาน วิ่ง อื่นๆ ทั้งหมดล้วนทำให้คุณห่างจากบุหรี่มากขึ้น
- ให้รางวัลกับตัวเอง สิ่งที่คุณกำลังทำไม่ใช่เรื่องง่าย เมื่อคุณทำถึงขั้นที่สำคัญหรือสูงสุด ให้อะไรกับตัวเองด้วยสิ่งที่คุณต้องการหรือชอบ
แนะนำอ่าน ไลฟ์สไตล์และพฤติกรรมเสี่ยงต่อสุขภาพ
ความยากในการเลิกสูบบุหรี่
- คุณสูบบุหรี่มากน้อยเท่าไรในแต่ละวัน
- เพื่อนและสมาชิกในครอบครัวของคุณสูบบุหรี่ด้วยไหม
- สุดท้ายคือ ทำไมคุณสูบบุหรี่
มองถึงประโยชน์ที่จะได้ ภายในไม่กี่ชั่วโมงของการเลิกสูบบุหรี่ ร่างกายของคุณจะเริ่มฟื้นตัวจากผลกระทบจากนิโคตินและการเสพติด ทั้งความดันโลหิต อัตราการเต้นของหัวใจและอุณหภูมิของร่างกายของคุณ ซึ่งทั้งหมดเคยสูงกว่าที่ควรจะเป็นเพราะนิโคตินในบุหรี่ แต่จากนี้ ทุกอย่างจะเริ่มกลับมาสู่ภาวะปกติ
คุณสามารถหายใจได้ง่ายสะดวกขึ้น ระดับของคาร์บอนมอนอกไซด์ที่เป็นพิษในเลือดลดลง ทำให้เลือดของคุณสามารถนำพาออกซิเจนได้มากขึ้น และไม่ต้องสงสัยเลยว่าการเลิกสูบบุหรี่ช่วยให้ร่างกายทั้งหมดของคุณดีขึ้น แต่ยังช่วยปรับปรุงรูปลักษณ์ของคุณ ให้ดูดีสมวัยมากขึ้น และถึงจุดนี้คุณจะมีความพร้อมในการเป็นสมาร์ต ซีเนียร์
เกิดอะไรขึ้นถ้าฉันกลับไปสูบบุหรี่อีกครั้ง
คล้ายการกำเริบของโรค มันเกิดขึ้นกับคนจำนวนมาก ก่อนที่จะเลิกสูบบุหรี่ได้อย่างถาวร ดังนั้นถือเป็นเรื่องปกติมากในการเสพติดที่รุนแรง เช่น การสูบบุหรี่ ถ้าคุณเกิดกำเริบ ลองพยายามสูบบุหรี่ให้น้อยที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ จนกว่าคุณจะพร้อมที่จะเลิกสูบบุหรี่อีกครั้ง การหยุดอย่างถาวรคือกระบวนการที่อาจใช้เวลานานสักหน่อยแต่มันคุ้มค่า
เรียบเรียงโดย: กองบรรณาธิการ
แหล่งข้อมูล: www.webmd.com
ภาพประกอบจาก: www.freepik.com