เชื่อว่าหลายท่านคงอาจคุ้นหูกับคำว่า “วัคซีน” และ “เซรุ่ม” กันมาบ้าง แต่บางครั้งก็อาจรู้สึกสับสนกับความหมายของคำสองคำนี้ ว่าการใช้ตัวยาท้งคู่มีความแตกต่างกันอย่างไร ต้องใช้ตอนไหน บางทีไปพบแพทย์ก็ยังคงงง ๆ กันบ้างว่าตัวเองควรจะรับยาฉีดแบบไหนบ้าง วันนี้เรามีคำตอบมาพร้อมไขข้อข้องใจกัน
วัคซีน (Vaccine)
เป็นยาชนิดหนึ่งซึ่งประกอบด้วยเชื้อโรคที่ตายแล้ว หรือถูกทำให้มีฤทธิ์อ่อนลงจนไม่เป็นอันตราย ใช้สำหรับฉีดหรือกิน เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายเกิดภูมิคุ้มกันโรค ซึ่งเกิดจากเชื้อนั้น ๆ อาทิ เช่น วัคซีนที่ใช้ป้องกันโรคคอตีบ ก็ประกอบด้วยเชื้อคอตีบ (ซึ่งเป็นแบคทีเรีย) ที่ตายแล้ว เมื่อเอามาฉีดให้เด็กขณะที่ยังแข็งแรงดี ร่างกายก็จะสร้างภูมิคุ้มกันโรคคอตีบ ต่อมาถ้าหากเด็กคนนี้อยู่ใกล้กับคนที่เป็นโรคคอตีบ แม้จะรับเชื้อเข้ามา ก็มีภูมิคุ้มกันคอยช่วยทำลายเชื้อคอตีบที่อาจจะรุกล้ำเข้ามาได้ ก็จะไม่เกิดเป็นโรคคอตีบ
เปรียบเสมือนการซ้อมรบของกองทหาร คือ เอาศัตรูปลอม ๆ (เทียบได้กับวัคซีน) ทำทีว่าเข้ามารุกรานประเทศของเรา เพื่อให้ทหารหาญของเรา (เทียบได้กับเม็ดเลือดขาว และกลไกการสร้างภูมิคุ้มกัน) เกิดความตื่นตัวและเตรียมพร้อมที่จะรับมือกับศัตรู เมื่อเกิดมีศัตรูจริง (เทียบได้กับภูมิคุ้มกัน) เข้ามา ทหารหาญของเราที่เตรียมพร้อม (ภูมิคุ้มกันโรค) ก็จะทำลายศัตรูได้ฉับพลันทันที ในปัจจุบันมีโรคที่สามารถป้องกันได้ด้วยวัคซีน เช่น วัณโรค ไอกรน คอตีบ บาดทะยัก โปลิโอ หัด หัดเยอรมัน คางทูม ไทฟอยด์ พิษสุนัขบ้า ตับอักเสบจากไวรัสชนิดบี สมองอักเสบ เป็นต้น
เซรุ่ม (Serum)
เป็นของเหลวสีเหลืองใส ที่สกัดจากเลือดม้าหรือเลือดคนที่มีภูมิคุ้มกันโรคเบ็ดเสร็จอยู่แล้ว (ซึ่งเตรียมขึ้นโดยการฉีดเชื้อโรคที่ตายแล้ว หรือมีฤทธิ์อ่อนเข้าไปในม้าหรือคน เพื่อกระตุ้นให้ม้าหรือคนนั้น สร้างภูมิคุ้มกันโรค แล้วก็เอาเลือดของม้าหรือคนนั้นมาสกัดอีกที) การฉีดเซรุ่มเข้าไปในคน ก็เท่ากับเอาภูมิคุ้มกันโรคจากม้าหรือคนมาใช้แทนร่างกายของเรา ในการทำลายเชื้อโรค จึงมักจะฉีดหลังจากที่ร่างกายติดเชื้อโรคชนิดหนึ่งชนิดใดเข้าไปแล้ว
เปรียบเสมือนประเทศที่ถูกข้าศึกรุกราน (เทียบได้กับการติดเชื้อ) แล้วขอร้องให้กองทัพพันธมิตร (เปรียบได้กับเซรุ่ม) เข้ามาช่วยทำลายข้าศึก (เชื้อโรค) นั่นเอง โรคที่สามารถใช้เซรุ่มช่วยในการรักษา เช่น บาดทะยัก คอตีบ พิษสุนัขบ้า พิษงู เป็นต้น
กล่าวโดยสรุป
วัคซีน เป็นเชื้อโรคที่ไม่มีพิษ ฉีดหรือกินเพื่อกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันโรคขึ้นมาเอง จะให้เมื่อร่างกายแข็งแรง (ยังไม่ได้รับเชื้อ หรือได้รับเชื้อในระยะแรก) และต้องรอเวลาให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกัน ซึ่งจะอยู่คงทนถาวรตลอดไป
เซรุ่ม เป็นภูมิคุ้มกันโรคที่ได้โดยตรงจากเลือดของสัตว์หรือคนอื่น ๆ ฉีดให้ร่างกายหลังจากติดเชื้อในระยะที่อาจเป็นอันตราย ได้ผลทันทีต่อการต่อสู้กับเชื้อโรคแต่จะอยู่ได้เพียงระยะสั้น ๆ ก็สลายตัวไป มักจะใช้กับคนที่ยังไม่เคยได้รับวัคซีนต่อโรคนั้น ๆ มาก่อน
ข้อเสียของเซรุ่ม คือ ทำให้ร่างกายแพ้ยา ซึ่งอาจรุนแรงถึงตายได้ เพราะเป็นเลือดของสัตว์หรือคนอื่น ส่วนวัคซีนไม่ทำให้เกิดการแพ้ที่เป็นอันตราย โดยแพทย์จะเลือกใช้วัคซีนสำหรับการป้องกันโรคในระยะยาว และใช้เซรุ่มสำหรับการรักษาโรคติดเชื้อที่อยู่ในระยะที่อาจเป็นอันตราย…ถ้าไม่อยากเสี่ยงต่อการแพ้เซรุ่ม ก็ควรรีบหาทางฉีดวัคซีนเสียแต่เนิ่น ๆ กันเถอะ
เรียบเรียงโดย : กองบรรณาธิการ
แหล่งที่มา : www.health2click.com
ภาพประกอบจาก : www.freepik.com