บ้านคือสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ แม้จะเหนื่อยจากการผชิญสิ่งต่าง ๆ มาตลอดวัน แต่เมื่อกลับถึงบ้าน ความวุ่นวายที่รุมเร้าทั้งใจและกายก็มักจะจางหาย เพราะอย่างนั้นในสถานที่อันแสนสำคัญนี้ เราจึงควรดูแลรายละเอียดปลีกย่อยให้ดีที่สุด การตกแต่งบ้านสามารถส่งผลต่ออารมณ์โดยรวมของผู้อยู่อาศัยได้ อีกทั้งยังสะท้อนถึงบุคลิกและรสนิยม สำหรับสังคมปัจจุบันที่แหล่งชุมชนมักถูกแยกออกห่างจากธรรมชาติแบบนี้ คงจะดีไม่น้อยหากเราสามารถผสมผสานความรู้สึกร่มเย็นเข้ามา เพื่อช่วยปรับพลังในแง่บวกอีกแรง
จัดมุมโปรดสำหรับดูวิวสวน
สิ่งสำคัญอย่างแรก ๆ สำหรับการแต่งบ้านให้ใกล้ชิดธรรมชาติคืออย่างน้อยคุณต้องมีพื้นที่สำหรับทำสวน เพื่อที่จะได้เพิ่มความเขียวชอุ่มของต้นไม้ ใบไม้ ลงไป ถ้ามีพื้นที่สวนไม่มาก คุณอาจกั้นกระจกบานใหญ่เพื่อให้สามารถมองเห็นธรรมชาติจากในบ้านได้ตลอดเวลา แต่ถ้าหากมีพื้นที่เพียงพอ การเพิ่มกลุ่มโต๊ะ หรือศาลาเล็ก ๆ ซักหลัง พร้อมมุมน้ำพุจะสามารถช่วยผ่อนคลายในวันเครียด ๆ ได้อย่างดีทีเดียว
ให้แสงสว่างธรรมชาติอย่างเพียงพอ
ช่องทางการสร้างแสงสว่างจากธรรมชาติที่ดีที่สุดคือการเพิ่มบานหน้าต่าง อาจเป็นกระจกใส หรือแบบระแนงไม้ที่แสงอาทิตย์สามารถเล็ดลอดเข้ามา…สิ่งเหล่านี้ถือเป็นองค์ประกอบเล็ก ๆ ที่มีผลต่อจิตใจไม่น้อย เชื่อเถอะว่าการได้อยู่ท่ามกลางแสงสว่างธรรมชาติจะทำให้คุณรู้สึกดีกว่าการอยู่ในห้องทึบ ๆ ที่ต้องเปิดหลอดไฟตั้งแต่หัววันแน่นอน
เพิ่มเฟอร์นิเจอร์ไม้
เฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากไม้ช่วยให้บรรยากาศโดยรวมของห้องต่าง ๆ ดูผ่อนคลายขึ้นได้ ไม่ว่าจะเลือกแบบไม้สีธรรมชาติ หรือไม้ที่ทาเคลือบด้วยสีสันก็ตาม แต่เฟอร์นิเจอร์ไม้ก็อาจมีข้อจำกัดบางประการ นั่นก็คือ ดูแลรักษาค่อนข้างยาก มีปัญหาเรื่องปลวก ซึ่งต้องพิถีพิถันในกรรมวิธีผลิตและการเลือกซื้อ ทำให้เฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากไม้มักมีราคาค่อนข้างสูง ดังนั้นลองเลือกผสมบางชิ้นที่โดดเด่นไว้ในห้อง ไม่จำเป็นต้องให้เป็นไม้ล้วนทั้งห้องก็ได้
ทาสีห้องด้วยโทนสีอ่อน
การปรับพื้นสีห้องให้เป็นโทนสีอ่อนอย่างขาว ฟ้า เขียว เหลือง ครีม เป็นต้น จะดึงเอาความสวยงามของการตกแต่งบ้านในแนวธรรมชาติ และเฟอร์นิเจอร์ไม้ในบ้านออกมาได้ดีมากกว่าโทนสีอื่น ๆ อีกอย่าง โทนสีอ่อนจะช่วยทำให้มุมมองในที่พักดูสว่างขึ้น ดูกว้างขึ้น เมื่อมีพื้นเรียบ ๆ แล้ว การตกแต่งเพิ่มลูกเล่นด้วยของแต่งบ้านก็สามารถทำได้ง่ายกว่า ในทางจิตวิทยาโทนสีอ่อนยังช่วยทำให้รู้สึกผ่อนคลายและสร้างความสงบได้ง่ายอีกด้วย
สร้างความแตกต่างด้วยน้ำ
คำว่าธรรมชาติไม่ได้หมายถึงต้นไม้อย่างเดียว แต่ยังประกอบด้วยสิ่งอื่น ๆ อย่าง หิน ดิน และน้ำอีกด้วย ตามหลักฮวงจุ้ยแล้ว น้ำสามารถเสริมพลังความร่มเย็นเป็นสุข ความราบรื่นในการดำเนินชีวิตให้แก่ผู้อยู่อาศัยได้ ในด้านจิตใจ การได้ฟังเสียงน้ำไหลเบา ๆ ช่วยสร้างสมาธิและความสงบ ดังนั้น ลองเพิ่มน้ำพุ หรือพวกพวกบ่อบัวตามจุดต่าง ๆ ของบ้านดู หรือจะเป็นการเลี้ยงปลาสวยงามไว้ในตู้ก็ได้ สามารถเสริมภาพความเป็นธรรมชาติได้เช่นกัน
เลือกผ้าม่านโปร่ง
การตกแต่งบ้านด้วยผ้าม่านโปร่งเบานั้นจะสามารถช่วยให้แสงสว่างที่ผ่านเข้ามาดูนุ่มนวลมากขึ้น ในส่วนของผ้าม่านทึบที่ต้องการจัดไว้สำหรับกั้นแสงทั้งหมด ให้ลองเลือกเป็นโทนสีอ่อนคล้ายคลึงกับพื้นผนังห้องจะช่วยให้บรรยากาศไม่ดูอับทึบจนเกินไป อีกทั้งยังดูมีสไตล์ในแบบเรียบง่ายเป็นธรรมชาติอีกด้วย
เพิ่มความสดชื่นด้วยดอกไม้สด
หากยังรู้สึกว่าภายในบริเวณบ้านไม่มีชีวิตชีวาเท่าที่ควรแม้จะเน้นเฟอร์นิเจอร์จำพวกวัสดุธรรมชาติแล้ว ให้ลองเพิ่มความสดใสด้วยดอกไม้สดเข้าไปตามจุดสำคัญต่าง ๆ เช่น โต๊ะรับแขก โต๊ะรับประทานอาหาร หรือตามจุดตั้งโต๊ะและมุมต่าง ๆ ของตัวบ้าน สีสันที่โดดเด่นออกมานอกเหนือจากโทนสีเขียวของใบไม้จะช่วยให้รู้สึกว่ามีความสนุกสนาน ดูสดชื่นน่ามองมากกว่าเดิม ดอกไม้บางชนิดยังมีกลิ่นหอมชวนผ่อนคลาย
ในการตกแต่งบ้านนั้น สิ่งสำคัญที่สุดที่ควรต้องคำนึงถึงอย่างยิ่งคือความพึงพอใจของผู้อยู่อาศัย แม้จะตั้งใจไว้ว่าต้องการชักนำเอาธรรมชาติมาใกล้ชิดกับตัวบ้าน แต่ก็ไม่ควรมองข้ามความสะดวกสบายในจุดต่าง ๆ ที่ควรได้รับ การตกแต่งบ้านที่เหมาะสมสามารถสร้างผลดีได้หลายอย่าง ทั้งในด้านการใช้ชีวิต ความนึกคิดและจิตใจ ดังนั้นหากใครที่กำลังมองหาเทคนิคการผสมผสานความเป็นธรรมชาติเข้ากับบ้านในเมืองให้ลงตัวก็ลองเอาไปปรับใช้กันดู
เรียบเรียงโดย : กองบรรณาธิการ
ภาพประกอบจาก : www.freepik.com