ใครกำลังวางแผนจะเดินสายไหว้พระ 9 วัดกันดูซักครั้ง แต่ยังไม่รู้ว่าจะไปที่ไหนบ้าง ลองมาดูทริปเส้นทางพระอารามหลวงในกรุงเทพฯ กัน แต่ละสถานที่ก็มีจุดเด่นเป็นเอกลักษณ์ทั้งในแง่ของความนิยมจากเหล่านักท่องเที่ยว ความสวยงามและประวัติศาสตร์อันยาวนาน อีกทั้งเดินทางสะดวกสบาย สามารถไปครบ 9 วัดภายในวันเดียวแน่นอน วันหยุดนี้จะไปฉายเดี่ยว หรือชวนก๊วนลูกหลานไปก็อิ่มบุญกันถ้วนหน้า
1. วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร
วัดสระเกศ หรือที่เราอาจคุ้นเคยในชื่อภูเขาทอง เป็นวัดเก่าแก่ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา จนกระทั่งรัชกาลที่ 1 ทรงโปรดเกล้าฯ ให้บูรณปฏิสังขรณ์ จุดเด่น ก็คือ พระบรมบรรพต หรือภูเขาทองตามชื่อเรียกของวัด ซึ่งบรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้บนยอด ภายในพระระเบียงมีพระพุทธรูปประดิษฐานเรียงกันทั้ง 4 ด้าน จำนวน 163 องค์ ประดิษฐานมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 3 ภายในพระอุโบสถ เป็นที่ประดิษฐานพระประธานปางสมาธิ วัดตั้งอยู่ในเขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ริมคลองมหานาค โด่งดังในเรื่องของการขอพรเพื่อเสริมสร้างความคิดอันเป็นสิริมงคล
2. วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร
ถ้าพูดถึงวัดอรุณ หรือวัดแจ้ง เราก็จะนึกถึงเอกลักษณ์สำคัญ ก็คือ ยักษ์วัดแจ้ง ซึ่งถูกชาวบ้านเล่าลือกันร่วมกับยักษ์วัดโพธิ์ในเรื่องตำนานท่าเตียน เดิมสร้างตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา เหตุที่ชื่อวัดแจ้งเพราะพระเจ้าตากสินมหาราชทำศึกเสร็จ แล้วยกทัพกลับมาเป็นเวลาเช้าพอดี จากนั้นต่อมา รัชกาลที่ 1 ทรงโปรดเกล้าฯ ให้บูรณปฏิสังขรณ์ ต่อเนื่องมาในสมัยรัชกาลที่ 3 ทรงโปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญพระบรมอัฐิของรัชกาลที่ 2 มาบรรจุไว้ที่พระพุทธอาสน์ของพระประธานในพระอุโบสถด้วย วัดตั้งอยู่บนถนนอรุณอมรินทร์ โด่งดังในเรื่องของการขอพรเพื่อชีวิตรุ่งโรจน์เหมือนกับรุ่งอรุณ
3. วัดราชนัดดารามวรวิหาร
วัดราชนัดดาเป็นโลหะปราสาทองค์แรกของประเทศไทย และเป็นองค์ที่ 3 ของโลก ถัดจากที่อินเดียและศรีลังกา โดยสร้างขึ้นตามประวัติพระพุทธศาสนา ที่นางวิสาขา ได้สร้างปราสาท 2 ชั้น 1,000 ห้อง ยอดปราสาททำด้วยทองคำชื่อว่า “มิคารมาตุปราสาท” ถวายแด่พระพุทธเจ้า โลหะปราสาทของไทยนั้นก่อสร้างขึ้นโดยพระราชดำริในรัชกาลที่ 3 ปัจจุบันถูกบูรณะเป็นมณฑปสีทอง จากเดิมวัสดุมุงและเครื่องประดับหลังคาเป็นโลหะและทองแดงรมดำ วัดตั้งอยู่ในเขตพระนคร บริเวณเชิงสะพานผ่านฟ้าลีลาศ โด่งดังในเรื่องการขอพรเพื่อชื่อเสียงเกียรติยศ
4. วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร
วัดสุทัศน์สร้างขึ้นในสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร โดยพระราชดำริในรัชกาลที่ 1 และถือเป็นวัดประจำรัชกาลที่ 8 อีกด้วย พระวิหารเป็นที่ประดิษฐานพระศรีศากยมุนี (พระโต) ซึ่งอัญเชิญมาจากพระวิหารหลวงวัดมหาธาตุ จังหวัดสุโขทัย ภายในวัดมีพระบรมราชสรีรางคารของรัชกาลที่ 8 บรรจุอยู่ที่ผ้าทิพย์ด้านหน้าพุทธบัลลังก์พระศรีศากยมุนี มีพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลคล้ายวันสวรรคตของรัชกาลที่ 8 ในวันที่ 9 มิถุนายนของทุกปี วัดตั้งอยู่บริเวณถนนบำรุงเมือง โด่งดังในเรื่องของการขอพรเพื่อเสริมวิสัยทัศน์กว้างไกลและความมีเสน่ห์
5. วัดพระศรีรัตนศาสดาราม
หรือที่เราคุ้นหูกันในชื่อวัดพระแก้ว สร้างโดยพระราชดำริในรัชกาลที่ 1 เพื่อเป็นวัดในพระบรมมหาราชวังเช่นเดียวกับวัดพระศรีสรรเพชญ์ ในสมัยกรุงศรีอยุธยา เป็นที่ประดิษฐาน พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร หรือพระแก้วมรกต พระคู่บ้านคู่เมืองของแผ่นดินสยาม ในวัดพระแก้วไม่มีพระสงฆ์จำพรรษาอยู่ ถือเป็นวัดที่มีการออกแบบทางศิลปสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นงดงาม มีความวิจิตรเป็นอย่างมาก วัดตั้งอยู่ที่บริเวณถนนหน้าพระลาน พระบรมมหาราชวัง นิยมไหว้สักการะเพื่อจิตใจสะอาดดุจพระรัตนตรัย
6. วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร
เรียกในอีกชื่อว่าวัดโพธิ์ เป็นวัดประจำรัชกาลที่ 1 และยังได้รับการยกย่องให้เป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกของประเทศไทยอีกด้วย เนื่องจากเป็นที่รวมจารึกสรรพวิชาหลายแขนง จนกระทั่งทาง Unesco ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกความทรงจำโลกของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และมรดกความทรงจำโลกในทะเบียนนานาชาติ ทั้งในเรื่องของภาพเขียนสี, โคลงโลกนิติ หรือการนวดแผนโบราณแบบฤาษีดัดตนต่าง ๆ อีกหนึ่งสัญลักษณ์สำคัญ คือ พระพุทธไสยาส หรือพระนอน วัดตั้งอยู่บริเวณท่าเตียน ใกล้กับพระบรมมหาราชวัง นิยมไหว้ขอพรในเรื่องของครอบครัวและความร่มเย็นเป็นสุข
7. วัดชนะสงครามราชวรมหาวิหาร
วัดชนะสงครามไม่ปรากฏหลักฐานการสร้างที่ชัดเจน ทว่าเป็นอีกวัดที่เก่าแก่ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาเช่นกัน โดยจนกระทั่งรัชกาลที่ 1 ทรงโปรดเกล้าฯ ให้บูรณปฏิสังขรณ์เพื่อให้เป็นวัดพระสงฆ์ฝ่ายรามัญ (มอญ) เพื่อเทิดเกียรติทหารชาวรามัญในกองทัพสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท ซึ่งเป็นกำลังสำคัญในการต่อสู้กับพม่าในสงครามเก้าทัพ จุดเด่นสำคัญ คือพระประธานในพระอุโบสถ มีนามว่าพระพุทธนรสีห์ตรีโลกเชฏฐ์ เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นแล้วบุด้วยดีบุกลงรักปิดทอง ปางมารวิชัย อีกหนึ่งสิ่งที่โด่งดังมาก คือ น้ำมนต์ เนื่องจากเป็นวัดที่ทำหน้าที่ทำน้ำมนต์ให้กับทางราชสำนักมาตั้งแต่สมัยโบราณจนปัจจุบัน ขึ้นชื่อเรื่องความศักดิ์สิทธิ์เป็นอย่างมาก ถ้าแวะไปไหว้สักการะอย่าลืมนำขวดน้ำมนต์บริเวณข้างพระประธานกลับมา โด่งดังในเรื่องของชัยชนะเหนืออุปสรรคต่าง ๆ
8. วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหาร
วัดเบญจมฯ ไม่ปรากฏหลักฐานการสร้างที่แน่ชัด แต่ได้รับการสถาปนาขึ้นใหม่อีกครั้งโดยรัชกาลที่ 5 และทรงพระราชทานนามว่า วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม สิ่งก่อสร้างสำคัญในบริเวณวัด คือ ศาลาสี่สมเด็จ เป็นศาลาจตุรมุขพื้นศิลา หลังคาประดับด้วยช่อฟ้าใบระกา รวมถึงพระที่นั่งทรงธรรม และหอระฆังบวรวงศ์ ถือว่าเป็นวัดที่โดดเด่นในเรื่องการวางแบบแปลนก่อสร้างเป็นอย่างยิ่ง อีกทั้งยังประดับด้วยหินอ่อนที่ดีที่สุดจากประเทศอิตาลี จึงเป็นที่รู้จักกันในกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติในชื่อ “Marble Temple” ตั้งอยู่ในเขตดุสิต ขึ้นชื่อในเรื่องการไหว้ขอพรในเรื่องของการเรียนและการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง
9. วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร
หากกล่าวถึงวัดระฆัง เชื่อว่าหลายคนจะนึกถึงพระเกจิดังอย่าง หลวงพ่อโต หรือพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี โดยวัดแห่งนี้ก่อสร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยาและโด่งดังมาตั้งแต่อดีต ทั้งในสมัยกรุงธนบุรีและกรุงรัตนโกสินทร์ ได้รับการยกย่องเป็นพระอารามหลวง และเป็นที่ประทับของสมเด็จพระสังฆราช ถูกบูรณปฏิสังขร์โดยรัชกาลที่ 1 มีหอพระไตรปิฎกซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่งดงาม วัดตั้งอยู่บริเวณศิริราช และเนื่องจากชื่อเสียงของหลวงพ่อโตในเรื่องของพระพุทธคุณทางด้านวิชชาคาถาอาคม เมตตามหานิยม ทำให้ผู้ที่มาเยือนวัดระฆังนิยมสวดบูชาคาถาชินบัญชร และขอพรในเรื่องของความแคล้วคลาดปลอดภัยทั้งปวง
เรียบเรียงโดย : กองบรรณาธิการ
ภาพประกอบจาก : www.freepik.com