ถ้าคุณกำลังมีความเชื่อว่า การแบกเป้ใบเดียวเที่ยวรอบโลกแบบ Backpack เป็นเรื่องของคนหนุ่มสาวเท่านั้น…คุณอาจกำลังคิดผิดถนัด ยกตัวอย่างง่าย ๆ ใกล้ตัว อย่างเมืองไทย มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติหลายราย ซึ่งหลั่งไหลเข้ามาในประเทศลักษณะของกลุ่มวัยปลดเกษียณ อีกทั้งหลายคนยังมาในแบบ Backpacker เสียด้วยซ้ำ ในขณะที่ผู้สูงอายุชาวไทยกลับใช้ชีวิตอยู่ในบ้าน แม้จะอยากท่องเที่ยวในลักษณะนั้นแต่ก็ยังรู้สึกหวาดกลัวหลายอย่าง ทั้งที่มีไม่น้อยเลยซึ่งมีสุขภาพแข็งแรง และสถานภาพทางการเงินที่มั่นคง
1. แค่วางแผนเดินทางให้ดี
กลัวจะไม่สบายตัว ไม่สะดวก ปวดเมื่อย หรือหวาดกลัวกับช่องทางการขนส่งสาธารณะ ในรายที่อาจไม่เคยไปไหนมาไหนด้วยตัวเองมาก่อน…ไม่ต้องเป็นกังวลจนถึงขนาดนั้น สำหรับ Backpacker มือใหม่อาจชิมลางการเดินทางด้วยการซื้อทัวร์คนเดียวก่อน ให้บริษัททัวร์พาคุณไปตามแผนการเดินทาง เอาไว้ความมั่นใจเริ่มมาแล้ว ครั้งต่อไปค่อยวางแผนการท่องเที่ยวด้วยตนเองแบบเต็มรูปแบบ สิ่งที่ต้องใส่ใจ ก็คือ การเลือกเที่ยวบิน ดูจุดหมายและจุดแวะให้ดีว่ามีเวลากี่ชั่วโมง จากนั้นศึกษาเส้นทางภายในประเทศนั้น ๆ รถไฟฟ้า รถใต้ดิน ไม่ใช่เรื่องยาก ถ้าไม่คุ้นจริง ๆ หัดใช้แอฟพลิเคชั่น Uber ให้เป็น ในทริปนั้นอยากจะไปที่ไหนบ้าง…ยังไงก็รอด
2. คุณรู้ว่าชีวิต คือ การผจญภัย
คุณมีประสบการณ์ในชีวิตมาเยอะขนาดนี้ รู้ดีที่สุดแล้วว่าชีวิต คือ การผจญภัย บางอย่างอาจเกิดขึ้นโดยคาดหวังไว้ และไม่ได้คาดหวังมาก่อน แทนที่จะกังวลมากเกินไป ปล่อยตัวเองให้สบาย ๆ กับการเดินทางไปเรื่อย ๆ บ้าง ทำงานมาจนเหนื่อยขนาดนี้แล้ว ถ้าไม่เริ่มท่องเที่ยวซักที…จะเริ่มตอนไหน เก็บเกี่ยวประสบการณ์ให้มากที่สุด มาเพิ่มความทรงจำให้ชีวิตกันดีกว่า
3. การเงินไม่ใช่ปัญหา
ถ้าเทียบกับช่วงวัยอื่น ๆ การเงินของคุณนับว่ามีความมั่นคงแล้ว หรือมองในอีกแง่…การ Backpack ยังช่วยให้คุณสามารถประหยัดได้กว่าการท่องเที่ยวแบบปกติด้วย ยิ่งคุณชำนาญการเดินทางด้วยตัวเอง และเคยชินกับระบบขนส่งสาธารณะแล้วจะทำให้ทุกอย่างใช้เงินน้อยลงไปอีก แม้แต่ค่าเครื่องบินไปจนถึงค่าบริการที่พักบางแห่ง รวมถึงร้านอาหาร มีโปรแกรมการลดราคาสำหรับผู้สูงอายุเฉพาะของเขาเอง โดยไม่เกี่ยวกับสวัสดิการ หรือการเป็นพลเมืองในประเทศของเขาอยู่แล้วด้วย ลองถามดูแล้วคุณอาจจะได้ของดีที่ซ่อนอยู่ก็ได้
4. ไม่ต้องรอใครให้เสียเวลา
ผู้สูงอายุบางรายกว่าจะได้ท่องเที่ยวซักทีต้องรอลูกหลาน บางทีวันหยุดยาวอย่างช่วงสงกรานต์ หรือปีใหม่ ถ้าลูกไม่พาไปไหนก็คงไม่ได้เปิดหูเปิดตาเลยตลอดทั้งปี…แทนที่จะรอแบบนั้น สู้ไปเองเสียเลยดีกว่า อยากเที่ยวตอนไหนก็จัดไป จะลองชวนเพื่อนเก่า ๆ หรือไปทัวร์ หรือลุยเองคนเดียวก็จัดเลย เชื่อเถอะว่าลูก ๆ ของคุณส่วนใหญ่สนับสนุนเสียด้วยซ้ำ สิ่งที่คุณกังวลไว้แต่แรกอาจแค่กลัวไปเองก็ได้
5. ร่างกายของคุณพร้อมกว่าที่คิด
ถ้าคุณไม่ใช่ผู้ป่วยติดเตียง ไม่มีโรคแบบที่ต้องฉีดยา หรือหาหมอตลอด…ไปเถอะ อย่าให้อะไรมาหยุดได้ ถ้าแค่กินยาพอ กรุบกริบ พกติดตัวข้ามประเทศพร้อมใบรับรองแพทย์ไม่ใช่ปัญหาเลย เพื่อตัดความกังวลก่อนเดินทางก็ซื้อประกัน ซึ่งมีขายที่สนามบินไว้ให้อุ่นใจซักหน่อย รีบเดินทางในตอนที่คุณยังไหวดีกว่า ก่อนที่จะถึงช่วงที่ไม่ไหวแล้วจริง ๆ
6. คุณไม่ต้องยึดติดกับ Backpack ตลอดเวลา
ถ้าคิดว่า Backpack คือ การนอนกลางดิน กินกลางทราย ต้องพักแบบ Hostel หรือเดินทางขนส่งสาธารณะเท่านั้น คุณกำลังยึดติดจนเกินไป…เราเชื่อว่าเวลาแบกเป้นาน ๆ ก็จะคิดถึงความสะดวกสบายของการมีคนคอยบริการบ้าง ดังนั้น ถ้าคุณจะนอนพักโรงแรมห้าดาวบ้าง หรือแอบซื้อทัวร์ท้องถิ่นในบางช่วงก็จัดไปตามที่สบายใจ ไม่ต้องเข้มงวดกับการท่องเที่ยวของคุณมากนัก…จำไว้ว่าจุดมุ่งหมายที่สำคัญที่สุดของการท่องเที่ยว คือ การหาความสุขให้ตัวเอง
7. คุณมีความคิดของตัวเอง
บางทีคุณก็อาจไม่ได้อยากไปเที่ยววัด แบบที่พวกลูกหลานในครอบครัวเข้าใจก็เป็นได้ และบางทีคุณอาจอยากลองตระเวณกินอาหารพื้นเมือง แทนที่จะลงเอยด้วยร้านอาหารไทย หรืออาหารจีนในต่างประเทศ ดังนั้น แทนที่จะไปตามความต้องการของคนอื่นตลอดทริป สู้ไปตามใจของตัวเองดีกว่า การเที่ยวคนเดียวหมายถึงทุกจุดหมายปลายทาง รวมถึงจุดแวะขึ้นกับตัวคุณเองล้วน ๆ อย่างกิจกรรมสุด Extreme อย่างการปีนเขา, กระโดดร่ม หรืออื่น ๆ อีกมายมายที่ไม่เคยได้ทำเมื่อต้องไปกับลูกเล็กเด็กแดง นี่คือ อิสระของคุณอย่างเต็มที่แล้ว
8. การท่องเที่ยวดีต่อสุขภาพ
การท่องเที่ยวก็เหมือนการออกกำลังกาย อย่างแรกที่เห็นได้ชัดที่สุด คือ การเดินทางไปไหนมาไหน ได้ออกแรง ได้ออกจากบ้านพร้อมกับซึมซับบรรยากาศ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเหนือกว่าการออกกำลังกายทั่วไป คือ ทำให้คุณได้มีประสบการณ์ใหม่ ๆ สร้างความสุข ซึ่งส่งผลดีต่อสุขภาพใจตามมา
9. ไม่มีอะไรน่ากลัว
ขนาดอยู่ในประเทศเรายังรู้สึกกลัวได้ในบางครั้ง จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะนึกกลัวเมื่อคิดถึงการเดินทางไปต่างปะเทศตามลำพัง แต่ขอให้ความมั่นใจว่าหมดยุคความไม่ปลอดภัยกันแล้ว โดยเฉพาะเมืองท่องเที่ยวชื่อดังต่าง ๆ ที่ขึ้นชื่อเรื่องความปลอดภัยระดับโลก ที่เหลือก็แค่มีสติทุกครั้งเวลาเก็บกระเป๋าเงิน หรือใช้โทรศัพท์มือถือ หลีกเลี่ยงประเทศในกลุ่มเสี่ยงในช่วงนั้น เช่น ข่าวความไม่สงบ ภัยธรรมชาติ หรือเหตุจลาจลต่าง ๆ ก็เพียงพอ
10. คุณได้ใช้เวลาอย่างคุ้มค่า
พูดกันตรง ๆ คือ คุณเหลือเวลาในชีวิตน้อยลงแล้วนะ ดังนั้น แทนที่จะผลัดวันประกันพรุ่ง ออกไปทำสิ่งที่ต้องการกันตั้งแต่วันนี้เลยดีกว่า อย่าให้อะไรมาหยุดคุณว่า “ทำไม่ได้” ผ่านชีวิตมาตั้งขนาดนี้แล้ว มันจะมีเรื่องร้ายแรงอะไรที่คุณยังไม่เคยเจออีกล่ะ…ความทรงจำที่ดีนั้นไม่จำเป็นต้องอยู่กับที่เท่านั้น คุณสามารถเดินทางและเรียนรู้ได้ในทุกช่วงวัยเลยทีเดียว
เรียบเรียงโดย : กองบรรณาธิการ
ภาพประกอบจาก : www.freepik.com